เศรษฐกิจพอเพียง “...เมื่อปี ๒๕๑๗ วันนั้นได้พูดถึงว่า เราควรปฏิบัติให้พอมีพอกิน พอมีพอกินนี้ก็แปลว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง ถ้าแต่ละคนมีพอมีพอกิน ก็ใช้ได้ ยิ่งถ้าทั้งประเทศพอมีพอกินก็ยิ่งดีและประเทศไทยเวลานั้นก็เริ่มจะเป็นไม่พอมีพอกิน บางคนก็มีมาก บางคนก็ไม่มีเลย ... ... คนเรา ถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิดอันนี้ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ซื่อตรง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณ ตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็พอเพียง ...” “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะ แนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๓๐ ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำใช้ได้ในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัวระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ความพอเพียง หมายถึง (ความพอประมาณ ความมีเหตุผล) รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก และภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกใน คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรู้ที่เหมาะสม ในการดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี ความพอเพียง จะต้องประกอบด้วย ๓ คุณลักษณะ ดังนี้ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ ไม่ใช้จ่ายเกินกำลังความสามารถในการหารายได้ของตน ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ เช่น คิดก่อนใช้ สิ่งใดจำเป็นหรือไม่จำเป็น ใช้จ่ายอย่างประหยัด และแบ่งปันเกื้อกูลต่อสังคม การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลง ด้านต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเก็บออมเงินไว้ใช้ เมื่อเกษียณอายุจากการทำงาน หรือใช้ในยามฉุกเฉิน การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้พอเพียง ต้องอาศัยความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ประกอบอาชีพที่สุจริต ด้วยความขยันหมั่นเพียร ใช้สติปัญญาในการตัดสินใจต่าง ๆ เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง เราทุกคนสามารถนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ได้ดังนี้ พอประมาณ : รายจ่ายสมดุลกับรายรับ ใช้จ่ายภายในกำลังความสามารถของตน ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ไม่โลภจนเบียดเบียนตัวเองหรือผู้อื่น ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีเหตุผล : ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล มีความจำเป็น ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ประหยัด ไม่ใช้สิ่งของ เกินฐานะ ไม่เล่นการพนันหรือเสพสิ่งเสพติด รู้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในด้านต่าง ๆ มีภูมิคุ้มกัน : รักษาสุขภาพกายสุขภาพใจให้แข็งแรง พัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองอย่าง ต่อเนื่อง มีเงินเก็บออม ทำบุญ และแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ความรู้คู่คุณธรรม : ประกอบอาชีพที่สุจริต ด้วยความขยันหมั่นเพียร ซื่อตรงต่อหน้าที่และยืนหยัด ในความถูกต้อง อุทิศตนเพื่องาน ทำงานเพื่องาน ทำงานอย่างผู้รู้จริง รู้รักสามัคคีหากเราทุกคนนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาน้อมนำประพฤติปฏิบัติ นอกจากจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างพื้นฐานของจิตใจของคนในชาติ ให้มีความพอดี มีคุณธรรม มีความสุขที่แท้จริง ไม่หลงยึดติดในโลกแห่งวัตถุนิยมการจัดทำบัญชีเงินออมครัวเรือน บันทึกรายรับและรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยตรวจสอบการใช้จ่ายของครอบครัวว่า มีรายจ่ายสมดุลกับรายรับ ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลตามความจำเป็น พอเหมาะกับสภาพของครอบครัวหรือไม่ หากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหรือฟุ้งเฟ้อเกินตน จะช่วยให้สามารถมีเงินเก็บออมเพื่อเป็นรากฐานสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับชีวิตในอนาคต

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การทำกล้วยอบน้ำผึ้ง


กล้วยอบน้ำผึ้งสูตรอินทวงค์ จังหวัดตาก

ประวัติความเป็นมา
         กล้วยเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ หาง่าย และมีอยู่มากมายในประเทศไทย ทุกภาคและทุกจังหวัดล้วนมีกล้วยอยู่แทบทั้งสิ้น เป็นที่รู้กันว่ากล้วยสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนตั้งแต่ ใบ ลำต้น และผล นอกจากนี้กล้วยมักจะเหลือจากที่รับประทานกันมาก ก็เลยมีการแปรรูปกล้วยหลายอย่าง เช่น กล้วยอบน้ำผึ้ง กล้วยกวน กล้วยฉาบ กล้วยแขกทอด เป็นต้น
          เมื่อ ปี 2542 ในหมู่ 5 ตำบลแม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก ก็เหมือนกัน มีกล้วยเหลือมากมายจากการรับประทาน บรรดาแม่บ้านที่ว่างเว้นจากการทำนา ทำไร่ รวมกลุ่มกัน จำนวน 12 คน ก่อตั้งกลุ่มชื่อว่า กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรก้าวหน้าเคหกิจบ้านโฮ้งเพื่อผลิตและแปรรูปกล้วย มีประธานกลุ่มคือคุณป้าสะอิ้ง อินแสน ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำกล้วยอบน้ำผึ้งสูตรโบราณ เรียกว่า กล้วยอบน้ำผึ้งสูตรอินทวงค์ ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในอำเภอแม่ระมาดและอำเภอใกล้เคียง มาเป็นเวลากว่า 10  ปี เป็นผู้ถ่ายทอดสูตรการทำกล้วยอบน้ำผึ้งให้กับกลุ่ม จนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับของกลุ่ม คือกล้วยอบน้ำผึ้งตำบลแม่ระมาดสูตรอินทวงค์ในปัจจุบัน

เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์
           เอกลักษณ์ของกล้วยอบน้ำผึ้งของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรก้าวหน้าเคหกิจบ้านโฮ้ง คือ เป็นกล้วยอบน้ำผึ้ง สูตรโบราณ ชื่อกล้วยอบน้ำผึ้งสูตรอินทวงค์ อบด้วยเตาถ่าน ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในอำเภอแม่ระมาดและอำเภอใกล้เคียง
2. น้ำผึ้งแท้
3. เกลือ
4. ถ่าน

ขั้นตอนการผลิต
1. นำกล้วยดิบที่บ่มจนสุกแล้วประมาณ 10 วัน มาปอกเปลือก ล้างน้ำเกลือ แล้วล้างน้ำสะอาด
2. นำกล้วยเรียงใส่ตะแกรง (คัดลูกเท่า ๆกันใส่ตะแกรงเดียวกัน)
3. เตรียมเตาไฟ ใส่ถ่านจนเต็มเตา รอจนถ่านติดไฟหมด นำขี้เถ้ากลบจนไม่เห็นถ่านสีแดง เพื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงจนเกินไป
4. อบกล้วย โดยนำตะแกรงที่มีกล้วยขนาดใหญ่ไว้ชั้นล่าง อบนานประมาณ 9 ชั่วโมง หมั่นตรวจดูไฟทุกๆ 1 – 2 ชั่วโมง
5. เมื่ออบกล้วยนานประมาณ 9 ชั่วโมงแล้ว ให้นำตะแกรงกล้วยออกจากเตา รอกล้วยเย็น ทุบกล้วยให้นิ่มทั้งสองด้าน แล้วพรมน้ำผึ้ง เรียงใส่ตะแกรงใหม่
6. ทำความสะอาดเตาไฟเพื่อกันไม่ให้ขี้เถ้าเกาะกล้วย เตรียมเตาไฟอีกครั้ง วิธีการเหมือนครั้งแรกแต่ลดไฟเหลือแค่ครึ่งเตา
7. นำกล้วยเข้าอบอีกครั้ง ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง สังเกตกล้วยถ้าไม่แห้งให้กลับด้าน
8. เมื่อกล้วยแห้งหมดแล้ว ให้กลบไฟด้วยขี้เถ้าจนสนิทเหลือแค่อุ่น ๆ แล้วปิดเตาทิ้งไว้หนึ่งคืน
9. ช่วงเช้านำกล้วยออกจากเตา ทำการตกแต่งให้สวยงาม แล้วบรรจุกล้วยลงกล่องบรรจุภัณฑ์

เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต
1. กล้วยที่นำมาใช้ในการผลิต ต้องเป็นกล้วยดิบ แก่จัด ลูกใหญ่และสวยไม่มีรอยช้ำ แล้วนำมาบ่มประมาณ 10 วัน

2. ใช้การอบแบบสูตรโบราณ ชื่อสูตร กล้วยอบอินทวงค์ เป็นการอบแบบใช้เตาถ่าน ควบคุมอุณหภูมิให้พอเหมาะ



ดาวโหลดเนื้อหาในหน้านี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แลกลิงค์ + ลิงค์เพื่อนบ้าน



แลกลิงค์ของคุณได้ที่นี่ค่ะ
ลิงค์ของเรามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ

หากคุณต้องการที่จะนำลิงค์ของคุณมาเพิ่มในเว็บบล๊อกของเราให้คุณส่งข้อมูลลิงค์ของคุณมาได้ที่ได้ที่ E-mail...... < so.saichool@hotmail.com > ค่ะ แล้วเราจะทำการนำลิงค์ของคุณลงในเว็บบล๊อกของเราโดยเร็วที่สุด
หมายเหตุคุณต้องนำลิงค์ของเราลงในเว็บไซต์ของคุณให้เรียบร้อยเสียก่อนโดยเราจะตรวจสอบหลังจากที่คุณส่งข้อมูลที่คุณต้องการแลกลิงค์ของคุณมายังอีเมล์ของเรา (ข้อมูลคือโค้ดลิงค์ของคุณ)
ก๊อปปี้โค้ดลิงค์ลิงค์นี่ไปวางในเว็บของคุณ