การทำเกษตรทำไมต้องต้องทำแบบชีวภาพ
ทำไมต้องปลูกในรูปแบบผสมผสาน
ทำไมต้องปลูกต้นไม้แบบขั้นบันได
การ ทำเกษตรแบบชีวภาพนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดบนผืนแผ่นดินที่บรรพบุรุษนั้นได้
ให้เรามา เมื่อใดที่เราได้ทำการเกษตรโดยใช้เคมีเข้ามาร่วมด้วย แน่นอนนั้นคือการทำลายผืนแผ่นดินที่ของตัวเอง
เคมีดีจริงในช่วงเริ่มใช้นั่นเหละครับ แต่เมื่อไหร่ที่ท่านใช้ไปนานรับรอง ต้อนทุนที่ท่านต้องรับเป็นภาระในการลงทุนครั้งต่อไปต้องเพิ่มขึ้นปี
ต่อ ปีอย่างแน่นอนครับ
การที่เราหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีมาใช้ในการเกษตรที่จริงไม่เป็นการลำบากหรือเสียเวลาเท่าไหร่เลย
เพราะ
ถ้าลองบวกลบคูณหารดูแล้ว การที่เราเสียเวในการทำปุ๋ยใช้เอง เทียบกับการที่เราเอาเวลาไปหาเงินมาซื้อปุ๋ยผมว่ามันเท่าๆกันนั่นเหละ
ดีไม่ดีการที่เราต้องใช้ปุ๋ยเคมีเป็นจำนวนมากทำให้เราต้องเพิ่มจำนวนเงินใน การซื้อปุ๋ยซะด้วยซ้ำนะครับ
แล้วดูเศรษฐกิจปัจจุบันนี่ซิครับ เงินก็หายาก ผลผลิตราคาต่ำ ต้นทุนราคาสูง ถ้าไม่ทำปุ๋ยใช้เองจะได้รายได้มากเท่าไหร่เชียวละครับ
ผมว่าคิดแบบพอเพียง
ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นดีที่สุดแล้วหล่ะครับ
พระองค์ทรงรักคนไทย
แล้วทำไมสิ่งที่ท่านแนะนำมาให้ จะไม่เป็นประโยชน์ต่อเราล่ะครับ
ทำ
เอง ใช้เอง ปลูกเองเลี้ยงเอง กินเอง เหลือก็ขาย สงสารก็ให้ นี่แหละนิสัยคนไทย
ที่เขาเรียกว่าน้ำใจงามครับ ท่านจะทำลายผืนแผ่นดินของท่านที่บรรพบุรุษได้มอบเป็นมรดกไว้สืบทอดให้ลูกให้
หลานด้วยสารเคมีหรือไม่ ถ้าท่านคิดได้ท่านจะทำอย่างไร
ที่ดิน ที่ท่านมีในพื้นที่ร่วมใช้สอยทั้งหมดแบ่งเป็น 10 ส่วน 3 ส่วน ใช้ปลูกพืชผักอีก
3 ส่วนใช้ปลูกไม้ยืนต้นและผลไม้ และอีก 3 ส่วนใช้เลี้ยงสัตว์บกสัตว์น้ำ 1 อีกหนึ่งส่วนที่เหลือปลูกบ้าน
แนะนำให้ขุดร่องคูใน 6 ส่วนที่ปลูกพืชผักและไม้ยืนต้น ปล่อยปลากินพืชในคูน้ำ
เช่น ปลานิล ปลาสวาย ปลากระดี่ ปลาตลาด ปลาดุกอุ้ย อีก 3 ส่วนที่เหลือนั้นก็ขุดบ่อเลี้ยงปลากินเนื้อสัก
1 ส่วนเช่น ปลาดุกนา ปลาหมอ และเลี้ยงสัตว์เช่นไก่ เป็ด
วัว หมู และปลูกหญ้าเท่าที่เหลือจากพื้นที่ของสัตว์เลี้ยง เล้า ไก่ เล้าหมู ควรที่จะทำให้ยื่นออกไปออกไปในบ่อที่เลี้ยงปลา
และปลาที่กินเนื้อนั้นเราก็เอาเศษอาหารหรือเศษเนื้อโยนให้กิน วัวที่เลี้ยงก็สร้างไว้ให้พอดีเท่าที่สามารถจะหาหรือปลูกหญ้าให้พอกิน
แต่ส่วนที่เลี้ยงสัตว์เช่น วัวแนะนำให้ทำคอกสองชั้น โดยชั้นแรกเป็นที่พักของวัว
และชั้นนอกที่เหลือก็ ปลูกหญ้าไว้รอบคอกชั้นแรก ข้างๆคูน้ำหรือบ่อปลาแนะนำให้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมโดยรอบทั้งหมด
โดยทิ้งระยะห่างต่อต้นไว้ประมาณ 5 เมตร
และ ที่ขอบบ่อหรือคันของคูน้ำแนะนำปลูกหญ้าที่ใช้เลี้ยงสัตว์
และ ส่วนพื้นที่โดยรอบของพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดให้ปลูกต้นไม้ที่ปลูกเพื่อเอาไม้ สร้างบ้านเป็นอนาคตให้ลูกต่อไป
หรือปลูกเพื่อทำเงินแล้วแต่ ต้นไม้ที่ปลูกส่วนใหญ่เช่น ต้นตะเคียน ต้นจันทร์ผา
ต้นเทียม ต้นยาง ต้นหมาก ต้นไม้ที่สูงๆ ไม่ควรปลูกใกล้บ้านจนเกินไป และ
ต้นไม้ที่ร่มใบมากๆ นั้นควรเลือกปลูกอย่าให้ชิดกันจนเกินไปเพราะจะทำให้ต้นไม่อื่นที่ต้องการแสง
แดดโตช้าเช่นเดียวกัน ต้นไม้ที่ร่มใบมากแนะนำให้ปลูกตามแนวการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์เพื่อที่จะ
ไม่ให้บดบังแสงแดดให้กับต้นไม้ต้นอื่นจนเกินไป ใต้ต้นไม้ก็ลองหาต้นไม้ประเภทต้นไม้ที่ต้องการแสงรำไรมาปลูก
เช่น ต้นผักเหมียง ต้นชะพลู ต้นกลอย ฯลฯ
วาง แผนพื้นที่ปลูกให้ดี แล้วค่อยหาต้นไม้ชนิดที่สามารถปลูกได้ในสภาพดิน(ควรตรวจสอบสภาพดินที่ใช้
เป็นพืนที่การปลูกว่าสามาถที่จะปลูกพืชชนิดนี้ได้หรือไม่ก่อนจะทำการปลูก ไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดไดก็ตาม)
แล้วค่อยเติมแต่งให้มีความหลากหลายในที่ดิน จนเราสามารถที่จะหาอะไรก็ตามมาทำเป็นอาหาร
หรือ บริโภคได้เองในพื้นที่ของเราเอง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น