23:25
อนุสรณ์
การปลูกอ้อยคั้นน้ำขายรายได้ดีไม่มีคำว่าขาดทุน
อ้อยเป็นพืชทนแล้ง มีหลายสายพันธุ์ แต่อ้อยที่เหมาะแก่การคั้นน้ำ มี 2 สายพันธุ์ คือ อ้อยที่มีเปลือกบางปอกง่าย เมื่อคั้นน้ำจะมีสีเหลืองอมเขียว
สีสวยน่ารับประทาน แต่ข้อเสียคือ
เมื่อลมพัดแรงๆ จะล้มง่าย เกษตรกรต้องทำราวกั้นเอาไว้ และเมื่ออายุครบกำหนดตัด (8-9) เดือน ก็ต้องตัด หากปล่อยไว้เกินกำหนดจะแตกและกลวง
ตลาดไม่ต้องการ อ้อยพันธุ์นี้คือพันธุ์สงขลา อ้อยอีกชนิดหนึ่ง เปลือกแข็งสีแดง
บางแห่งเรียกว่า อ้อยพันธุ์สิงคโปร์ บางแห่งเรียกว่าอ้อยสุพรรณ
อ้อยชนิดนี้มีข้อดีคือ ลำต้นตั้งตรง รากยึดเกาะแน่น โดนลมแรงๆก็ไม่ล้ม
ไม่ต้องทำรางกั้น น้ำหวานเข้ม
อายุเก็บเกี่ยวเกินไปบางก็ไม่มีปัญหาเรื่อไส้แตกไส้กลวง
ข้อเสียหรือจุดด้อยของอ้อยประเภทนี่คือ เปลือกแข็ง ปอกอยาก ราคาถูกกว่าอ้อยเหลือง
แต่การดูแลจะจัดการง่ายกว่าอ้อยเหลือง
พื้นที่สำหรับการปลูกอ้อยชอบดินร่วนปนทราย พื้นที่ดินเหนียวก็ปลูกอ้อยได้เช่นกัน
หากมีการเตรียมดินที่ดี โดยใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยน้ำชีวภาพ ให้พอเพียง
อ้อยเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำท่วมขัง หากโดนน้ำท่วม
แม้อ้อยไม่ตายแต่คุณภาพความหวานจะลดลง
การปลูกอ้อยในพื้นที่ลุ่มจะต้องยกร่องให้พ้นจากระดับน้ำท่วม
หากเป็นพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมก็ไม่จำเป็นจะต้องยกร่อง อาจใช้วิธีกวาดร่อง
จะช่วยให้วิธีการระบายน้ำดีขึ้นในช่วงฤดูฝน การเตรียมดิน เกษตรกรจะต้องไถอย่างน้อย
2 ครั้ง เป็นการกำจัดวัชพืช
ไม่ควรใช้ยาฆ่าหญ้าเพราะเป็นการทำลายจุลินทรีย์ในดิน หลังจากนั้นก็ขุดหลุมขนาด 50
50
เซนติเมตร คือ กว้างครึ่งเมตร ยาวครึ่งเมตร
ระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถว 2
2 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 400 กอ นำท่อนพันธุ์ที่มีความยาว 3-4 ปล้อง
ฝังไว้ในหลุมๆละ 2 ท่อน ก่อนการปลูกควรรองก้นด้วยปุ๋ยคอก
ปุ๋ยหมัก จะทำให้อ้อยเจริญเติบโตเร็วขึ้น อ้อยในระยะแรกๆ ต้องการความชื้นสูง
ควรรดน้ำวันเว้นวันและคลุมด้วยหญ้าแห้งหรือฟางข้าว
จะช่วยให้ดินเก็บความชื้นได้มากขึ้น อ้อยก็จะแตกตาได้เร็วขึ้น
เมื่ออ้อยเติบโตได้สูงประมาณ 1 ฟุต
ให้เสริมด้วยปุ๋ยจุลินทรีย์น้ำ โดยรดราดทางดินทุกสัปดาห์ และใช้ปุ๋ยหมัก
ปุ๋ยคอกทุกเดือน ช่วงระยะเวลา 7 เดือนหากดูแลบำรุงดีๆ
ก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว หนึ่งกอจะให้ผลผลิต 8-10 ลำ
เกษตรกรจะต้องปอกกาบใบที่เป็นใบตายออกตลอด จะช่วยให้อ้อยผิวสวย
กาบใบก็ให้สุมทับที่โคนต้นก็จะเป็นปุ๋ยชั้นดีอีกต่อไป ผลผลิตชุดแรกจะได้ประมาณกอละ
100 บาท พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 400
กอ เกษตรกรจะมีรายได้ประมาณ 40,000 บาทต่อไร่
โดยใช้ระยะเวลาอีก 8 เดือน อีก 5
เดือนถัดไปก็จะได้ผลผลิตชุดที่สอง ชุดที่สองหากให้การดูแลดีๆ คือปุ๋ยหมัก
ปุ๋ยหมักคอกทุกเดือน และราดน้ำหมักชีวภาพทุกๆ 7 วัน
ผลผลิตจะสูงกว่าชุดแรกประมาณ 30% กล่าวคือ จะมีจำนวน 12-14 ลำต่อหนึ่งกอ
หากมีการดูแลให้ปุ๋ยคอกอย่างต่อเนื่องเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 4 ครั้ง กว่าจะทิ้งแปลง
หากเกษตรกรปลูกอ้อยและคั้นน้ำขายเองก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 8 เท่า อ้อยหนึ่งลำขนาด 4 กิโลกรัม หากกิโลกรัมละ 3 บาทก็เท่ากับ 12 บาท เมื่อคั้นน้ำขายก็จะได้เงิน 96 บาท เป็นงานที่สร้างรายได้เพิ่มเป็นอย่างดี
น้ำอ้อยคั้นตลาดมีความต้องการสูงมาก โดยเฉพาะหน้าร้อนจะเปิดทางที่รถสัญจรไปมา
หรือขายเร่ตามหมู่บ้าน ย่านชุมชน ก็สร้างเงินได้เป็นอย่างดี
เกษตรกรจะต้องวางแผนการปลูกอ้อยให้เก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูร้อน และ
ท่านจะขายได้ในราคาสูง
นาย อนุสรณ์ ชลเกษม ผู้พิมพ์เอกสาร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น